简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:CIS เทรดเดอร์ลึกลับชาวญี่ปุ่น สร้างพอร์ตหุ้นจาก 3 ล้านเยนสู่หลักหมื่นล้าน ด้วยกลยุทธ์จัดการความเสี่ยงและวินัยทางอารมณ์ พร้อมอิทธิพลแรงในโลกออนไลน์ถึงขั้นเขย่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้.
ในแวดวงการเงินของญี่ปุ่น หากพูดถึงชื่อ “CIS” แม้จะไม่ใช่นักลงทุนที่เปิดเผยตัวต่อสาธารณชน แต่กลับเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของตลาดหุ้นโตเกียว ด้วยเส้นทางจากเงินลงทุนเพียง 3 ล้านเยน (ประมาณ 1 ล้านบาท) สู่พอร์ตมูลค่ากว่า 23,000 ล้านเยน (ราว 7,500 ล้านบาท) ในระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี
CIS ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะนักเทรดรายวัน (day trader) ที่มีผลงานโดดเด่น แต่ยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลบนโลกโซเชียลมีเดียญี่ปุ่น โดยเฉพาะใน Twitter ซึ่งทวีตเพียงหนึ่งข้อความของเขาสามารถทำให้ราคาหุ้นขยับได้จริง
จุดเริ่มต้นจากห้องนอนและเกมออนไลน์
CIS เกิดในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ในครอบครัวฐานะยากจนของญี่ปุ่น เขาเริ่มสร้างรายได้จากการเล่น ปาจิงโกะ ตั้งแต่อายุ 15 ปี และพัฒนาทักษะด้านการวางแผนและความน่าจะเป็นจากการเล่นเกมไพ่ เช่น โป๊กเกอร์ และแบล็กแจ็ก
ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เขามีเงินเก็บประมาณ 20 ล้านเยนจากการเล่นเกมเหล่านี้ พร้อมกับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกมออนไลน์ และพัฒนาทักษะการจัดการความเสี่ยงในโลกเสมือน
“จุดเริ่มต้นของฉัน...คือเกม” — CIS
ก้าวแรกในโลกการลงทุน
เติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดหุ้น
เส้นทางของ CIS เต็มไปด้วยทั้งโอกาสและบทเรียนที่ท้าทาย:
กลยุทธ์การลงทุนและแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร
CIS เชื่อว่าทักษะการเล่นเกม และการเข้าใจจิตวิทยาผู้เล่น เป็นรากฐานสำคัญของการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เขาย้ำเสมอว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การ “ชนะทุกครั้ง” แต่คือการ “จัดการความเสี่ยงให้ได้”
กฎการลงทุนของ CIS:
แม้เขาจะย้ำว่า “เปอร์เซ็นต์การชนะอยู่เพียง 30-50%” แต่สิ่งที่ทำให้เขายืนระยะในตลาดได้ คือการควบคุมความเสียหาย และรักษาผลตอบแทนในระยะยาว
บุคคลลึกลับ ผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์
CIS มักใช้ชื่อบัญชี @cissan_9984 บน Twitter และเป็นที่รู้จักในชื่อเล่นว่า “เจ้าตั๊กแตน” โดยในวงการเทรดของญี่ปุ่น เขาเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ด้านการเงินที่มีอิทธิพลสูงสุด ข้อความของเขามีผลต่อราคาหุ้นจริง และเป็นที่จับตามองไม่แพ้ผู้ใช้ชื่อดังอื่น ๆ อย่าง “Okasanman”
หนังสือที่กำลังจะเปิดเผย “ปรัชญาการลงทุน”
เร็ว ๆ นี้ CIS เตรียมออกหนังสือเล่มแรกของเขาในชื่อ “The Investment Philosophy of the Man Who Can Move the Nikkei” ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จระดับตำนาน และจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก uhas
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
จากภาพยนตร์ The Wolf of Wall Street สู่บทเรียนชีวิตจริงของโลกการเงิน — เรื่องราวของ Jordan Belfort ไม่ได้สะท้อนแค่ศิลปะการขาย แต่ยังเปิดโปงด้านมืดของ “ความอยาก” ที่ขับเคลื่อนโลกการเงิน การใช้วาทะปลุกพลังในทีมขาย, การเปลี่ยน “ความโลภ” ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างอาณาจักร และบทสรุปของชายผู้เปลี่ยนจากนักล่าสู่เหยื่อของตัวเอง บทความนี้ถอดรหัสแรงขับเบื้องหลังตลาดทุน ที่ยังคงเดือดไม่เปลี่ยนแปลง แม้ยุคสมัยจะหมุนไป
ในยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว Gen Z กลับกลายเป็นกลุ่มที่เริ่มวางแผนการเงินและเกษียณอย่างจริงจังตั้งแต่อายุยังน้อย ต่างจากคนรุ่นก่อนที่เริ่มวิตกเมื่อใกล้เกษียณ บทความนี้สรุป 4 บทเรียนสำคัญจาก Gen Z เช่น การเปิดใจคุยเรื่องเงิน การใช้เทคโนโลยีทางการเงิน การสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง และการไม่พึ่งพารัฐ ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ให้คนรุ่นเก่าได้ทบทวนและเริ่มต้นวางแผนอนาคตอย่างมั่นคงกว่าเดิม
เบอร์นี แมดอฟฟ์ สร้างความน่าเชื่อถือจากบทบาทในวงการการเงินและภาพลักษณ์ธุรกิจครอบครัว เพื่อดำเนินแผน Ponzi Scheme ที่แนบเนียนที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้จะมีเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ กลับไม่สามารถจับผิดได้กว่า 30 ปี จนคดีนี้สร้างความเสียหายกว่า 2 ล้านล้านบาท และทำลายชีวิตผู้คนจำนวนมาก เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า “ความน่าเชื่อถือ” โดยไร้การตรวจสอบ อาจนำไปสู่หายนะที่ไม่มีใครคาดคิด.
บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.