简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บัญชีม้าคริปโทฯ กลายเป็นช่องทางฟอกเงินหลักของมิจฉาชีพในปี 2567 ก่อความเสียหายกว่า 37,000 ล้านบาท โดยใช้ธุรกรรม P2P ที่ยากต่อการติดตาม รัฐ-เอกชนเร่งปราบปราม พร้อมออกกฎหมายควบคุมแพลตฟอร์มคริปโทฯ หวังสกัดภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ในยุคดิจิทัล อาชญากรรมทางการเงินได้พัฒนากลยุทธ์ใหม่อย่างรวดเร็ว ล่าสุด “บัญชีม้าคริปโทฯ” กลายเป็นช่องทางหลักในการฟอกเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการฉ้อโกงพุ่งทะลุ 37,582 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 103 ล้านบาท
ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและระบบ Central Fraud Registry (CFR) เผยว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 มีการใช้บัญชีคริปโทฯ ในการฟอกเงินกว่า 6,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% ของความเสียหายทั้งหมด โดยกระบวนการโอน เปลี่ยน และฟอกเงินสำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และบางรายการใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น
บัญชีม้าคริปโทฯ ซับซ้อน-ตามตัวยาก
เดิมทีบัญชีม้าในรูปแบบบัญชีธนาคารเคยเป็นปัญหาหลัก แต่ปัจจุบัน มิจฉาชีพได้เปลี่ยนมาใช้ บัญชีคริปโทฯ ซึ่งมีความซับซ้อนและยากต่อการติดตาม เนื่องจากธุรกรรมส่วนใหญ่ดำเนินการแบบ Peer-to-Peer (P2P) ผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน (KYC) ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของกระเป๋าคริปโทฯ
แม้ระบบบล็อกเชนจะสามารถตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังได้ แต่หากปลายทางของธุรกรรมไม่มีการยืนยันตัวตน ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นเจ้าของเงินที่ถูกโอน
บัญชีนิติบุคคล-ฟอกเร็วกว่าเดิม
หนึ่งในแนวโน้มที่น่าห่วงคือการเปลี่ยนจากบัญชีม้าบุคคลทั่วไป มาเป็น บัญชีม้านิติบุคคล ซึ่งมีเพดานการโอนเงินสูงกว่า และดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาเหยื่อ โดยอาชญากรยังปรับลดจำนวนทอดของการโอน จาก 4-5 ทอด เหลือเพียง 1-2 ทอด ก่อนเข้าสู่ระบบคริปโทฯ เพื่อเร่งกระบวนการฟอกเงินให้เร็วที่สุด
รัฐ-เอกชนเร่งรับมือ
จากสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เพิ่มมาตรการกวาดล้างอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ระดับบัญชี ไปจนถึงระดับบุคคล โดยสามารถอายัดบัญชีม้าได้มากกว่า 2 ล้านบัญชี (ข้อมูล ณ ก.พ. 2568) และยังได้จับมือกับสมาคมธนาคารไทย ปรับมาตรฐานตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 รัฐบาลไทยได้ออก กฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการควบคุมไปยังแพลตฟอร์มคริปโทฯ ในต่างประเทศที่อนุญาตให้คนไทยซื้อขายแบบ P2P ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงในโลกการเงินดิจิทัล
สรุป:
บัญชีม้าคริปโทฯ คือภัยคุกคามใหม่ที่รัฐต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และประชาชนต้องไม่หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มที่ไม่ชัดเจน หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GVD Markets ออกคำเตือนด่วนถึงนักเทรดทั่วโลก หลังพบเว็บไซต์ปลอมในอินโดนีเซียแอบอ้างชื่อและโลโก้ของบริษัท เพื่อหลอกลวงให้ผู้ใช้ฝากเงิน ก่อนยึดทรัพย์สินโดยผิดกฎหมาย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงิน GVD Markets จึงร่วมกับ WikiFX เร่งตรวจสอบ พร้อมแนะนำให้นักเทรดตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และรายงานกิจกรรมต้องสงสัยทันที เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ในอนาคต
บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.
บทความนี้พาผู้อ่านไปสำรวจความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ ETO Markets ซึ่งแม้จะเริ่มเป็นที่พูดถึงในกลุ่มนักลงทุน แต่กลับมีเสียงสะท้อนด้านลบหลายประเด็น เช่น การใช้งานเว็บไซต์ที่ซับซ้อน ระบบฝาก–ถอนที่ล่าช้า ขาดการสนับสนุนภาษาไทย และค่าบริการที่สูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง บทความจึงเน้นย้ำให้นักลงทุนตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกใช้โบรกเกอร์ที่ยังไม่มีความมั่นคงเพียงพอ.
แอดเหยี่ยวขอแจ้งเตือน! ช่วงนี้มิจฉาชีพออนไลน์ระบาดหนัก โดยใช้วิธีเปิดเพจปลอมหลอกขายสินค้า พวกเขาจะส่งโค้ดส่วนลดและคิวอาร์โค้ดให้เหยื่อ โจร AB หลอกให้โอนเงินแทนบุคคลอื่น แอดเหยี่ยวขอเตือนว่าให้ระมัดระวัง และชำระเงินผ่านระบบของแพลตฟอร์มเท่านั้น หากไม่มั่นใจ อย่าหลงเชื่อและหยุดคิดก่อนโอนเงิน!