简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:รีวิวโบรกเกอร์ XTB
XTB เป็นโบรกเกอร์จากประเทศโปแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2004 ให้บริการหลากหลายในการเทรด ทั้งใน Forex และ CFDs มีสำนักงานใหญ่กว่า 13 ประเทศ หน้าเว็บไซต์รองรับได้ถึง 19 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เทรดเดอร์ว่าโดดเด่นหลายๆ เรื่อง เรื่องความโปร่งใส เรื่องความเร็วในการจัดการคำสั่ง และมีลูกค้ามากกว่าถึง 120,000 รายทั่วโลก
XTB ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไซปรัส The Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ภายใต้ใบอนุญาตคือ 169/12
XTB ภายใต้การกำกับดูแลของThe Financial Conduct Authority (FCA) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินในสหราชอาณาจักร ภายใต้ใบอนุญาตคือ 522157
มีประเภทบัญชีดังนี้
ฝากขั้นต่ำ $1 เสปรดต่ำสุดอยู่ที่ 0.5 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น มีค่า Swap เลเวอเรจสูงสุด 1:500
Swap Free
ฝากขั้นต่ำ $1 ค่าเสปรดต่ำสุดอยู่ที่ 0.7 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่นและไม่มีค่า Swap เลเวอเรจสูงสุด 1:500
แพลตฟอร์มการเทรด
xStation 5
xStation Mobile
ช่องทางการฝาก-ถอน ดังนี้
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันทำการ
Email: sales_th@xtb.global
โทรศัพท์: +66 2 026 1622
ข้อดี
1.การฝากขั้นต่ำเพียง 1$ เท่านั้น
2.มีบริการให้เลือกเทรดที่หลากหลาย
ข้อเสีย
1.การแปลภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์
2.ไม่รองรับ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
โดยสรุป โบรกเกอร์ XTB มีคะแนนประเมินบน WikiFX อยู่ที่ 6.40 /10 อย่างไรโปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบรกเกอร์คลิก
https://www.wikifx.com/th/dealer/1561892500.html
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ทฤษฎี "Greater Fool" หรือ “ทฤษฎีคนโง่ที่ใหญ่กว่า” อธิบายพฤติกรรมการลงทุนที่มุ่งหวังเพียงการขายต่อให้ผู้ที่ยอมจ่ายแพงกว่า โดยไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ ซึ่งแม้จะดูเหมือนทำกำไรได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายอาจทำให้นักลงทุนกลายเป็น "คนโง่คนสุดท้าย" ที่ต้องรับภาระขาดทุน ทฤษฎีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนตามกระแส และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสติ การวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองในการลงทุนอย่างยั่งยืน.
การพักผ่อนคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักเทรด แม้ว่าเราจะสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่การพักผ่อนจะช่วยฟื้นฟูสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยรักษาความมั่นคงทางอารมณ์ เคล็ดลับ: - นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน - หยุดพักเมื่อรู้สึกเครียดหรือเหนื่อย - หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่คุณไม่มีสมาธิ การพักผ่อนทำให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดังนั้นอย่ามองข้ามความสำคัญของการพักผ่อนในชีวิตประจำวันครับ!
บทความนี้นำเสนอคำแนะนำสำหรับนักเทรด Forex ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนและสภาพคล่องลดลง ส่งผลให้การเทรดมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น แอดเหยี่ยวแนะนำสัญญาณเตือน 3 ประการที่นักเทรดควรระมัดระวัง ได้แก่ ความผันผวนที่อาจสูงหรือต่ำเกินไป ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่อาจกระทบตลาด และความเสี่ยงจากการเทรดเกินตัว (Overtrading) พร้อมทั้งแนะนำวิธีการจัดการความเสี่ยง เช่น การลดขนาดการลงทุน การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit ให้ชัดเจน และการหยุดพักเมื่อรู้สึกเครียด เพื่อให้การเทรดในช่วงสงกรานต์เป็นไปอย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จ.
บทความนี้กล่าวถึงทางเลือกระหว่าง "เทรด" หรือ "เที่ยว" ของนักเทรดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งแม้ตลาด Forex จะไม่หยุดตามวันหยุดไทย แต่การตัดสินใจว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเทรดต่อหรือพักผ่อนก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของแต่ละคน โดยแบ่งออกเป็นสองแนวทางหลักคือ การเทรดต่อเนื่องเพื่อจับโอกาสในตลาดที่เงียบ และการพักเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและวางแผนระยะยาว บทความเน้นว่าทั้งสองทางเลือกต่างมีข้อดีและข้อควรระวัง พร้อมชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จของนักเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอยู่หน้าจอตลอดเวลา แต่คือการรู้เท่าทันตัวเองและเลือกทำสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในช่วงเวลานั้นอย่างแท้จริง