简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:PMI คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ โดยย่อมาจาก Purchasing Managers Index (PMI Index)
หากเป็นนักเทรดมืออาชีพ การติดตามข่าวสารก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่ง ของนักเทรดที่จะรู้ถึงแนวโน้มเศษฐกิจ ของประเทศนั้นๆหรือภูมิภาคนั้นๆ ทำให้สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และหนึ่งใน Indicators ที่นักเทรดมืออาชีพ ใช้เพื่อวิเคราะห์ดูแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต คือ “ดัชนี PMI” วันนี้แอดเหยี่ยวได้รวมข้อมูลมาให้แล้ว ว่าทำไมเทรดเดอร์ต้องติดตาม!!
PMI คืออะไร ?
PMI คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ โดยย่อมาจาก Purchasing Managers Index (PMI Index)เป็นตัวชี้วัดหรือดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ เพื่อดูทิศทางและแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งภาคการผลิต และภาคบริการของโลกในปัจจุบันและอนาคต แต่สิ่งสำคัญคือธนาคารกลางใช้ข้อมูลเหล่านี้ ในการกำหนดนโยบายการเงิน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
การตีความหมาย ค่าของดัชนี PMI
นักเทรดสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์การวางแผนลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยดัชนี PMI จะสะท้อนความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิ ซึ่งมีการตีความหมายดัชนี PMI ดังนี้
ถ้าดัชนี PMI มีค่ามากกว่า 50 หมายถึง เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวจากระดับปัจจุบัน
ถ้าดัชนี PMI มีค่าเท่ากับ 50 หมายถึง เศรษฐกิจมีแนวโน้มคงที่จากระดับปัจจุบัน
ถ้าดัชนี PMI มีค่าน้อยกว่า 50 หมายถึง เศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัวจากระดับปัจจุบัน
PMI สามารถบอกอะไร?
ตัวเลขออกมาสูงกว่า 50 แปลว่าสภาวะเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี แต่่หากต่ำกว่า 50 แปลว่าเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย
ดังนั้นหาก PMI ลดลงในประเทศหนึ่ง นักเทรดอาจพิจารณาลดความเสี่ยงในตลาดทุนของประเทศนั้น และเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศอื่นๆที่มีค่า PMI ที่สูงขึ้น
รู้หรือไม่? ค่า PMI ส่งผลกับทองด้วย
หากสภาวะเศรษฐกิจดี ก็แปลว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอาจจะไม่ใช่สิ่งที่นักเทรดมองหาในช่วงเวลานั้น แต่ในทางกับกัน สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือถดถอยก็แปลว่า สินทรัพย์ปลอดภัยเป็นสิ่งที่น่าลงทุนในช่วงเวลานั้น ทำให้ค่า PMI ที่ออกมาจะส่งผลให้ทองคำราคาขึ้นหรือลง เข้าใจง่ายๆ ตามนี้เลยครับ
PMI สูง = ราคาทองคำอาจปรับตัวลงต่ำ
PMI ต่ำ = ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น
ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก tradewithauntie
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินในลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เน้นให้เห็นว่า “จิตวิทยาการลงทุน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex, Crypto หรือหุ้น มากกว่าความรู้ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว โดยแอดเหยี่ยวได้สรุป 5 หลักคิดของเทรดเดอร์มืออาชีพ ได้แก่ 1) ยอมรับความเสี่ยงก่อนเทรด 2) ควบคุมอารมณ์ไม่ให้โลภหรือกลัว 3) มีวินัยเหมือนนักกีฬาอาชีพ 4) มองระยะยาวมากกว่ากำไรสั้น ๆ และ 5) เรียนรู้จากความผิดพลาดแทนการโทษตลาด พร้อมแนะนำให้ผู้เริ่มต้นฝึกเขียนแผนเทรด กำหนดความเสี่ยง และบันทึกพ
บทความนี้ตอบคำถามยอดฮิตของมือใหม่ว่า ควรเรียนเทรด Forex เองหรือไปลงคอร์ส? โดยชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองทางทำได้ ไม่มีคำตอบตายตัว การเรียนด้วยตัวเองเหมาะกับคนที่มีเวลาและชอบค้นคว้า ส่วนคอร์สช่วยย่นเวลาและให้โครงสร้างที่ชัดเจน แต่ไม่การันตีความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดคือ mindset ของเทรดเดอร์ ได้แก่ วินัย การบริหารความเสี่ยง ความไม่คาดหวังรวยเร็ว และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าทางไหนก็ประสบความสำเร็จได้ หากตั้งใจและฝึกฝนจริงจัง มากกว่าการมัวแต่หาสูตรสำเร็จหรือที่เรียนที่ดีที่สุด.
รีวิวโบรกเกอร์
เหตุการณ์และตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
Saxo
FBS
Exness
IC Markets Global
IB
OANDA
Saxo
FBS
Exness
IC Markets Global
IB
OANDA
Saxo
FBS
Exness
IC Markets Global
IB
OANDA
Saxo
FBS
Exness
IC Markets Global
IB
OANDA