简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:กระทรวงการคลังแถลงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ขยายตัว 1.8% และ 2.8% ตามลำดับ เป็นไปตามที่มีเอกสารหลุดออกมาก่อนหน้านี้
กระทรวงการคลังแถลงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ขยายตัว 1.8% และ 2.8% ตามลำดับ เป็นไปตามที่มีเอกสารหลุดออกมาก่อนหน้านี้
กระทรวงการคลัง แถลงผล การประมาณการเศรษฐกิจไทยปี2566 ว่า “เศรษฐกิจไทยปี2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.8 ชะลอลงจากปี 2565 ที่ขยายร้อยละ 2.6” โดยมีปัจจัยสำคัญจากการหดตัวของการผลิต ภาคอุตสาหกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI)
ในส่วนของสถานการณ์ค่าเงินบาท ในปี 2566 พบว่า ค่าเงินบาทมีความผันผวนโดยอ่อนค่าในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 และแข็งค่าขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจจีน และนโยบายการเงินผ่อนคลายของญี่ปุ่น โดยค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปี 2566 เฉลี่ยที่ 34.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากค่าเฉลี่ยปี 2565
สำหรับในปี 2567 กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.3 ถึง 3.3)
ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.5 ถึง 1.5)
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ในระยะยาวนั้น ควรให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น ดังนี้
1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Development) เช่น การพัฒนาการใช้พลังงานที่ยั่งยืน การลงทุนในด้านดิจิทัล และการพัฒนาด้านคมนาคมเชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ และทำให้ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางในระดับภูมิภาคได้
2. การพัฒนาทักษะ (Skills Development) การเตรียมแรงงานให้มีทักษะที่จำเป็นส าหรับเศรษฐกิจโลกมีความสำคัญและจะส่งเสริมความสำเร็จในระยะยาวได้ดี
3) การรักษาเสถียรภาพทางการคลัง (Fiscal Stability) มุ่งมั่นในการบริหารจัดการการคลังอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายของรัฐและระดับหนี้สาธารณะอย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แถลงข่าว กค. ฉบับที่ 4/2567 ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ประจำเดือนมกราคม 2567
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เน้นให้เห็นว่า “จิตวิทยาการลงทุน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex, Crypto หรือหุ้น มากกว่าความรู้ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว โดยแอดเหยี่ยวได้สรุป 5 หลักคิดของเทรดเดอร์มืออาชีพ ได้แก่ 1) ยอมรับความเสี่ยงก่อนเทรด 2) ควบคุมอารมณ์ไม่ให้โลภหรือกลัว 3) มีวินัยเหมือนนักกีฬาอาชีพ 4) มองระยะยาวมากกว่ากำไรสั้น ๆ และ 5) เรียนรู้จากความผิดพลาดแทนการโทษตลาด พร้อมแนะนำให้ผู้เริ่มต้นฝึกเขียนแผนเทรด กำหนดความเสี่ยง และบันทึกพ
บทความนี้ตอบคำถามยอดฮิตของมือใหม่ว่า ควรเรียนเทรด Forex เองหรือไปลงคอร์ส? โดยชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองทางทำได้ ไม่มีคำตอบตายตัว การเรียนด้วยตัวเองเหมาะกับคนที่มีเวลาและชอบค้นคว้า ส่วนคอร์สช่วยย่นเวลาและให้โครงสร้างที่ชัดเจน แต่ไม่การันตีความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดคือ mindset ของเทรดเดอร์ ได้แก่ วินัย การบริหารความเสี่ยง ความไม่คาดหวังรวยเร็ว และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าทางไหนก็ประสบความสำเร็จได้ หากตั้งใจและฝึกฝนจริงจัง มากกว่าการมัวแต่หาสูตรสำเร็จหรือที่เรียนที่ดีที่สุด.
รีวิวโบรกเกอร์
เหตุการณ์และตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
FXTRADING.com
STARTRADER
XM
KVB
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
STARTRADER
XM
KVB
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
STARTRADER
XM
KVB
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
STARTRADER
XM
KVB
OANDA
Saxo