ราคาทองคำพยายามฟื้นตัวเป็นระยะ

สรุป ราคาทองคําในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดงลดลง 10.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ทั้งนี้ ในระหว่างวันราคาทองคําพยายามฟื้นตัวขึ้นเป็นระยะ โดยดีดตัวขึ้น ทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,828.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะ 105.01 ซึ่งเป็น ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ศ. 2002 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อและแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยจากความ วิตกเกี่ยวกับการชะลขทางเศรษฐกิจทั่วโลก ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีตตัวจากระดับต่ําสุดบริเวณ 2.8157% สู่ระดับ 2.928%

ขณะที่นักลงทุนกลับมา เปิดรับความเสี่ยง โดยกลับเข้าซื้อหุ้นจนส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 466.36 จุด หรือ +1.47%, ดัชนี S&P500 ปิด +2.39% และดัชนี Nasdaq ปิด +3.82% พร้อมเทขายพันธบัตรในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ปัจจัยที่กล่าวมา กดดันให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนบริเวณ 1,799 22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงปลายตลาดโดยได้รับแรงหนุนจาก ดัชนีความ เชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากม.มิชิแกนที่ดิ่งลงเกินคาดสู่ระดับ 59.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2011 ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -4.93 ต้น สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index) ของสหรัฐ และถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก

หลังจากราคาอ่อนตัวลงอาจมีแรงซื้อดันให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้านโซน 1,834-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจมีแรงขายออกมาเพิ่มขึ้นหากไม่ผ่านราคาอาจอ่อนตัวลงอีกครั้ง เบื้องต้นมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,799-1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่ได้ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลง ต่อทดสอบแนวรับโซน 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ

คำแนะนํา เปิดสถานะขาย 1,834-1,851

จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,799-1,794

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1.851

ข้อมูลจาก : Investing.com & YLG Bullion International